9 กรกฎาคม 2554

วิธีดูขนาดของ Storage และ RAM สำหรับมือถือแอนดรอยด์



อยากรู้ว่าเครื่องมี Memory เท่าไรดูได้ที่นี่

Smart Phone ก็เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป ที่นอกจากจะมีซีพียูแล้ว ก็ต้องมี Memory หรือหน่วยความจำสำหรับการทำงาน โดย Smart Phone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จะมีการใช้งานหน่วยความจำอยู่ 3 ชนิด คือ RAM, Storage และ SD Card

หน่วยความจำประเภทแรกคือ RAM มีหน้าที่เป็นที่พักข้อมูลในการคำนวณของเครื่องและแอ็ปต่างๆ หากมี RAM มากเครื่องก็จะทำงานได้รวดเร็วและราบรื่น หากมีน้อยก็อาจทำให้เครื่องเกิดอาการกระตุกได้ ปกติ RAM จะถูกจองการใช้งานให้กับแอ็ปต่างๆ ที่เราเปิดขึ้นมา หากเปิดค้างไว้หลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน ก็จะทำให้ RAM เหลือน้อยลง และเครื่องจะเริ่มอืดได้ ดังนั้นเราอาจจะต้องปิดแอ็ปบางตัวที่เปิดค้างไว้ แต่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อให้เครื่องกลับมาทำงานเป็นปกติ สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมบนมือถือ ก็ควรทราบไว้ด้วยว่าเกมโดยมากชอบเครื่องที่มี RAM เยอะๆ หากมีน้อยก็มักจะกระตุกครับ

RAM ที่มากับเครื่องจะมีมากมีน้อยส่วนหนึ่งขึ้นกับราคา เครื่องที่ราคาสูงก็จะมีมามากหน่อย อาจถึง 1GB ส่วนเครื่องราคาปานกลางก็จะมีมาประมาณ 512MB แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าตามฮาร์ดแวร์ ส่วนการใช้งานจริง ตัวระบบจะแบ่ง RAM ส่วนหนึ่งไว้ใช้งานเอง ทำให้ RAM ที่เราใช้งานได้จริงจะเหลือน้อยลง เช่นเครื่อง Galaxy Cooper ที่มี RAM มา 512MB แต่เวลาเราตรวจสอบด้วยโปรแกรมจะพบว่าเห็นแค่ 278MB เท่านั้น และเมื่อบูตเครื่องเสร็จตัวโปรแกรมระบบก็จะใช้ไปแล้วกว่า 150 เม็ก

หน่วยความจำประเภทที่สองคือ Internal Phone Storage หรือเรียกสั้นๆ ว่า Storage หน่วยความจำแบบนี้ถ้า้เทียบกับเครื่องพีซีแล้ว ก็เหมือนกับไดรฟ C: คือเป็นที่สำหรับติดตั้งโปรแกรมหรือแอ็ปนั่นเอง หากเครื่องมี Storage มามากก็จะสามารถติดตั้งแอ็ปได้มาก หากมีมาน้อยก็จะมีปัญหา Memory เต็มได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเครื่องที่ใช้แอนดรอยด์รุ่นแรกๆ ที่เป็นรุ่น 2.1 ลงไป จนต้องมีการนำเทคนิค App2SD มาใช้ เพื่อย้ายแอ็ปจาก Storage ไปไว้บน SD Card แทน แต่สำหรับเครื่องรุ่นใหม่ที่ใช้ แอนดรอยด์รุ่น 2.2 ขึ้นไป จะมีปัญหานี้น้อยลง เพราะแอนดรอยด์ตั้งแต่รุ่นนี้ขึ้นไปจะมีความสามารถ App2SD มากับตัวเลย

แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะใช้ App2SD แล้วก็ตาม มันก็ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งหมด เพราะแอ็ปบางตัวที่มีความซับซ้อน รวมทั้งแอ็ปพวกที่เป็นวิดเจ็ต ยังคงต้องการให้เราติดตั้งไว้บน Storage เท่านั้นจึงจะทำงานได้ ทำให้ใช้ไปไม่นาน Storage ของเราก็มักจะเต็มอยู่ดี

มีคำอยู่คำหนึ่งที่หลายคนอาจจะสับสน และคิดไปว่าคือสิ่งเดียวกับ Storage ก็คือคำว่า ROM ความจริงหน่วยความจำแบบ ROM นั้น เป็นหน่วยความจำที่อ่านได้อย่างเดียว ไม่สามารถเขียนทับได้ เหมาะสำหรับเอาไว้เก็บโปรแกรมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นตัวโอเอส แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้ ROM สามารถถูกเขียนทับหรืออัปเดตได้ ดังนั้นเราจึงสามารถอัปรุ่นของแอนดรอยด์ได้เองง่ายๆ โดยไม่ต้องส่งเครื่องไปให้ช่างที่ศูนย์เป็นคนทำให้ เจ้า ROM นี่เองที่ผู้ออกแบบฮาร์ดแวร์จะแบ่งส่วนหนึ่งไปเป็น Storage ให้เราใช้งาน ดังนั้น Spec เครื่องที่บอกว่ามี ROM 512MB ก็หมายความว่า โอเอสกับ Storage ของเครื่องนั้นรวมกันจะเท่ากับ 512MB แต่ Storage จริงๆ จะมีแค่ส่วนเดียวเท่านั้น และจะมีเหลือมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับว่าผู้ผลิตเขาแบ่งหรือปรุง ROM มาอย่างไร หากใส่ลูกเล่นความสามารถไว้มาก ก็จะเหลือ Storage น้อยลง อย่างเครื่อง Cooper ที่ผมใช้ ก็เป็น ROM ขนาด 512MB แต่มี Storage ให้เราใช้แค่ประมาณ 181MB เท่านั้น

ทั้ง RAM และ Storage เป็นสิ่งที่ไม่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ ดังนั้นในตอนซื้อเครื่อง หากหวังว่าจะเอามาติดตั้งแอ็ปเยอะๆ ก็ควรต้องเลือกเครื่องที่มี Internal Phone Storage มากๆ หน่อย เช่น 1GB ขึ้นไป อย่างเครื่องตระกูล Galaxy S ที่มีขนาดตั้งแต่ 4GB ถึง 16GB เป็นต้น

หน่วยความจำประเภทสุดท้าย คือ หน่วยความจำภายนอก ซึ่งเรามักจะเรียกว่า SD Card หน่วยความจำประเภทนี้มักแถมมาต่างหาก ไม่ได้อยู่ในเครื่อง มีขนาดตั้งแต่ 1GB ขึ้นไปถึง 16GB หรือมากกว่านั้น หน่วยความจำประเภทนี้ก็คล้ายๆ กับไดรฟ์ D: ของเครื่องพีซี คือเป็นที่สำหรับเก็บข้อมูลของเราที่สร้างขึ้นมาหรือดาวน์โหลดมา เช่นภาพถ่าย วิดีโอ เพลง ไฟล์เอกสาร และไฟล์อื่นๆ หากมีน้อยไม่พอเก็บก็สามารถซื้อตัวใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่ามาใส่แทนได้

บางคนอาจจะมองว่า SD Card เป็นเหมือน Flash Drive ด้วย คือมันสามารถถูกถอดออกมาแล้วเอาไปเสียบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นเพื่อ copy ไฟล์ระหว่างกัน สามารถทำได้ครับ แต่ต้องระวังหน่อยคือ หากมีการติดตั้งโปรแกรมไว้บน SD Card การถอด SD Card ออก อาจทำให้โทรศัพท์ของเราแฮงก์ได้เหมือนกัน และหากเป็นไปได้ก็ควรสั่ง Unmount ก่อนจะดีที่สุด

มาถึงตอนนี้ คงอยากรู้กันแล้วสิว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าน้องดรอยด์ของเรามี RAM หรือ Storage มาเท่าไร แล้วตอนนี้เหลืออยู่เท่าไร มาดูวิธีการกันครับ

วิธีแรก ใช้การเรียกดูผ่าน Settings หรือ About Phone ของเครื่อง ปกติผู้ผลิตเครื่องมือถือของเรามักจะให้ยูติลิตีบางอย่างมากับเครื่อง เพื่อที่เราจะสามารถดูค่าของ ROM และ Storage ได้เอง ผ่านเมนูพวก Settings หรือ About Phone ให้ลองเรียกดูครับ เช่นในเครื่องตระกูล Galaxy จะอยู่ที่ Settings>SD card and phone storage

วิธีนี้ในเครื่องบางรุ่นอาจจะไม่มีข้อมูล RAM มาให้ (เช่น Cooper จะไม่มีข้อมูลของ RAM) แต่ในบางรุ่นจะมีมาให้ด้วย


รูปแรก เป็นการดู SD card และ Storage ที่เหลือ โดยดูผ่าน Settings ตัวเลข 7.41GB คือ SD Card ทั้งหมด (ความจริงเป็น SD Card ขนาด 8GB แต่เมื่อฟอร์แมตแล้วจะเหลือแค่นี้) เลข 6.09GB คือ SD Card ที่ยังว่าง และด้านล่าง 25.68MB คือขนาดของ Storage ที่เหลืออยู่ครับ

วิธีที่สอง ใช้แอ็ปที่เกี่ยวกับ App Manager หรือ Task Manager ที่มีอยู่แล้วในเครื่อง เช่น ในเครื่อง Cooper จะใช้ Task Manager โดยเมื่อเรียกแอ็ปมาแล้ว ให้แตะที่แ่ผ่น RAM สำหรับการดู RAM และแตะที่แผ่น Summary สำหรับการดูค่าของ Storage และ SD Card

รูปที่ 2 เป็นการดู RAM ที่ใช้ไปแล้ว 196MB จากทั้งหมด 278MB ด้วย Task Manager

รูปที่ 3 เป็นการดู Storage และ SD card ด้วย Task Manager จะเห็นว่า Storage ใกล้เต็มแล้ว คือใช้ไป 155MB จากที่มี 181MB ส่วน SD Card ยังเหลืออีกเยอะ เพิ่งใช้ไปเพียง 1.33GB จากทั้งหมด 7.41GB

วิธีที่สาม หากทำตาม 2 วิธีแรกไม่ได้ ให้ลอง Search หาแอ็ปจาก Market โดยหาคำว่า RAM Storage แล้วเลือกดาวน์โหลดดู ที่ผมแนะนำก็ตัวนี้เลยครับ Super Box-task+app+file manager ชื่ออาจยาวสักหน่อย แต่ทำงานได้สารพัดครับ
พอติดตั้งเสร็จเรียกดูจาก Icon แรกคือ Memory/Cpuได้ทันที

รูปที่ 4 เป็นหน้าจอของ SuperBox ซึ่งจะแสดงข้อมูลของหน่วยความจำที่ยังเหลือ จะเห็น RAM (Memory) ที่ด้านบน ว่าเหลืออยู่อีก 91.24MB จากทั้งหมด 278MB ส่วน SD Card และ Storage(Phone)เหลือ 6.09GB และ 25.52MB ตามลำดับ

มีข้อสงสัย หรือคำถามใดๆ โปรดฝากเป็น Comment ไว้ได้เลยครับ




6 ความคิดเห็น:

  1. ในรุปที่ 2 (ram) กด clear memory ได้มั้ยค่ะ ถ้ากดแล้วเครื่องจะเร็วขึ้นมั้ยค่ะ

    ตอบลบ
  2. RAM โดยมากลบแล้วไม่มีผลต่อความเร็ว ยกเว้นบางครั้งบางกรณีเท่านั้น
    แถมบางครั้งอาจทำให้เครื่องทำงานช้าลงเล็กน้อยด้วยเพราะ App ที่ใช้บ่อยๆ เมื่อถูกลบ ก็จะต้องโหลดใหม่อีก
    ดังนั้น ขอแนะนำว่าไม่ต้องลบครับ

    Thanai Android

    ตอบลบ
  3. สอบถามถึง เฉพาะตัว Storage ในเครื่องรุ่นใหม่ๆ จะมีมาให้ค่อนข้างมาก เช่น Note 2

    แต่ในกรณี ที่เป็น Note 1 เค้าให้ Storage มาแค่ ประมาณ 2 GB แต่ที่เหลือ เอามาเป็น memory USB แทนตั้ง 11 GB แหนะ

    คำถามคือ เราสามารถ เปลี่ยนเอาส่วนที่เป็น Memory USB ที่อยู่ในเครื่อง มาเป็น Storage ได้ไหม เอาสัก 4-6 GB ก็พอครับ ส่วนที่เหลือ เป็น Memory เหมือนเดิมก็ได้ครับ

    เพราะ เราก็ใส่ SD 32 GB อยู่แล้ว พื้นที่ก็เหลือเฟือ แต่ Storage นี่สิ น้อยไปหน่อยครับ

    วิทย์

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ครับ
      เพราะการแบ่งพื้นที่ให้มีหน้าที่ต่างๆ นั้น ถูกกำหนดมาแต่แรกโดยผู้สร้าง ROM
      ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโดยผู้ใช้ได้

      แต่สำหรับบางคนที่ต้องการจริงๆ ก็ต้องใช้วิธีสร้างหรือปรับปรุง ROM ขึ้นมาใหม่เอง ซึ่งจะสามารถแบ่งพื้นที่ต่างๆ เช่น Storage ตามขนาดที่ต้องการได้
      หรือลองหาดู ROM ที่มีคนทำไว้แล้วก็ได้

      ลบ
  4. เราเปลี่ยนจาก SD card มาเป็น RAM เหมือนคอมได้มั้ยครับ
    รบกวนตอบทาง wasin.lplk@gmail.com นะครับ ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ได้ครับ RAM ข้อมูลใน RAM จะหายเมื่อปิดเครื่องครับ

      ลบ